7 ทริค ขั้นตอนการทำให้ห้องหอม ห้องจะไม่เหม็นสาบอีกต่อไป

วิธีการทำให้ห้องหอม ถือได้ว่าเป็นการผลิตบรรยากาศให้ห้องน่าอยู่ รวมทั้งสามารถพักได้อย่างเต็มที่ ซึ่งในตอนนี้หลายๆบ้าน ก็หันมาตั้งใจดูแลห้องต่างๆให้น่าอยู่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การตกแต่งห้องใหม่หรือแม้กระทั้งการใช้ น้ำหอมในห้องนอน รวมทั้ง pgslot สเปรย์ปรับอากาศในห้อง เพื่อช่วยทำให้ห้องมีกลิ่นหอมยวนใจ รู้สึกบรรเทา อีกทั้งช่วยลดและก็กำจัดกลิ่นชื้นแฉะได้อย่างดีเยี่ยม

กระบวนการทำให้ห้องหอม

โดยในวันนี้ HomeGuru จะพาคุณมาเปลี่ยนแปลงห้องปกติให้เปลี่ยนเป็นห้องที่น่าอยู่แบบง่ายๆด้วยแนวทางที่ทำให้ห้องหอมน่าอยู่ เหมาะสมกับการพักผ่อนหย่อนใจสูงที่สุด

1. กระบวนการทำให้ห้องหอม จำเป็นต้องเริ่มจาก Big Cleaning Day

2. ทำให้อากาศระบาย ช่วยปรับให้ห้องหอมไม่กลิ่นอับ

3. DIY กล้วยๆทำที่กำจัดกลิ่นข้างในห้อง

4. อีกหนึ่ง แนวทางการทำให้ห้องหอม เพียงแค่ปลูกต้นไม้ในห้อง

5. เลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม สูตรหอมนาน ไม่กลิ่นอับ

6. เลือกใช้ เครื่องฟอกอากาศ ช่วยทำให้ห้องสะอาดได้จริง

7. น้ำหอมปรับอากาศ อีกหนึ่ง แนวทางการทำให้ห้องหอมแบบง่ายๆ

กระบวนการทำให้ห้องหอม

1. วิธีการทำให้ห้องหอม จะต้องเริ่มจาก Big Cleaning Day

ขั้นแรกเริ่มของกระบวนการทำให้ห้อง pgslot หอมมีชีวิตชีวา จำเป็นต้องเริ่มจากกระบวนการทำความสะอาดแบบ Big Cleaning Day ไม่ว่าจะเป็น แนวทางการทำความสะอาดมุมต่างๆด้านในห้อง ทั้งยังรอบๆเครื่องเรือน ตู้ ใต้เตียง ใต้บันได หรือแม้กระทั้งหลังตู้ ที่คุณอาจจะไม่มีความสนใจและไม่ได้ชำระล้าง กระทั่งครั้งคราวก็สะสมฝุ่นผงกองโตเอาไว้

วิธีการทำความสะอาดห้อง ขอเสนอแนะว่า ให้ฉวยโอกาสนี้ทิ้งของที่ไม่มีความสำคัญออกไปให้สูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็น กระดาษ กล่องลัง ถุงก๊อบแก๊บ ถุงที่ทำจากกระดาษที่เก็บเอาไว้แล้วมิได้ใช้ กระปุกครีม หรือแม้กระทั้งข้าวของเครื่องใช้ด้านในห้องที่หมดอายุหรือใช้หมดแล้ว อาทิเช่น สเปรย์ปรับอากาศในห้อง ที่สำคัญ อย่าลืมจัดระบบโซนต่างๆใหม่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งยังรองเท้าที่วางไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย มุมหนังสือหรือโต๊ะทำงานที่เกลื่อนกลาดแล้วก็มีของกองสุมๆกันอยู่

2. ทำให้อากาศระบาย ช่วยปรับห้องหอมไม่กลิ่นอับ

บางครั้งบางคราวการที่ห้องของคุณมีกลิ่นเหม็นอับ แม้ว่าจะใช้ สเปรย์ปรับอากาศในห้อง ก็ยังไม่ช่วยทำให้กลิ่นหายไป 100% อาจมีต้นเหตุมาจากอากาศด้านในห้องที่ไม่ระบาย ด้วยเหตุนี้ ในวันหยุดหรือวันพัก ชี้แนะว่าให้เปิดหน้าต่างหรือเปิดประตูห้อง เพื่อลมสามารถพัดเข้ามาถ่ายเทอากาศเก่าออกไป แล้วรับอากาศที่มีชีวิตชีวาเข้ามาแทน แม้กระนั้นข้อควรปฏิบัติตามเป็น อย่าเปิดนานเหลือเกิน เพราะว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับฝุ่นละอองที่เข้ามาได้

ขั้นตอนการทำให้ห้องหอม

3. DIY กล้วยๆทำที่ขจัดกลิ่นด้านในห้อง

อีกหนึ่งเคล็ดลับ กระบวนการทำให้ห้องหอม ฉบับคนไม่ค่อยมีเวลาดูแลบ้าน ก็คือ การ DIY ของใกล้ตัวให้เปลี่ยนมาเป็นที่ขจัดกลิ่นชั้นหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามที่คุณพึ่ง Big Cleaning Day ไปหมาดๆที่บางทีบางทีอาจไม่สามารถที่จะไล่กลิ่นออกไปได้ทั้งผอง

1. สบู่ก้อน

เรียกว่าเป็นเทรนด์ยอดนิยมในปี 2021 นี้ อย่างยิ่งจริงๆ ในการนำเอาสบู่ก้อนมาขูดๆเป็นเส้นบางๆใส่ลงในแก้ว จากนั้นให้นำเอาไปวางตามจุดต่างๆด้านในภาย แทนการใช้ น้ำหอมในห้องนอน ซึ่งแนวทางนี้นอกเหนือจากที่จะช่วยทำให้คุณได้ห้องที่หอมแล้ว ยังสามารถนำไปเป็นของตกแต่งบ้านได้ด้วย

2. เบกกิ้งโซดา

ผู้ใดกันแน่ว่าเบกกิ้งโซดาเป็นประโยชน์เพียงแค่การปรุงอาหารเพียงแค่นั้น ด้วยเหตุว่าในความเป็นจริงแล้ว พวกเรายังสามารถนำเบกกิ้งโซดามาลดเหม็นอับได้ด้วย โดยให้นำไปใส่ขวดหรือผ้าบางๆเพื่อกันการหก แล้วก็ค่อยนำไปวางตามจุดที่มีกลิ่นเหม็นอับได้เลย

3. กากกาแฟ

คอกาแฟที่ดริปกาแฟกินเสมอๆอย่าทิ้งกากกาแฟโดยเด็ดขาด เนื่องจากว่ากากกาแฟช่วยดูดกลิ่นเหม็นอับเจริญมากมายๆโดยให้นำไปใส่ถ้วยเล็กๆแล้วเอาไปวางตามมุมของตู้หรือมุมห้อง หรือถ้าเกิดคนใดต้องการเพิ่มความหอม ก็สามารถเพิ่มกลิ่นหอมสดชื่นเข้าไปด้วยได้

4. ถ่านหุง

ให้นำถ่านไปใส่ไว้ด้านในผ้าบางๆหรือถุงผ้าตาข่าย ต่อจากนั้นให้เอาไปวางหรือห้อยไว้รอบๆราวแขวนผ้า เพียงเท่านี้ก็จะช่วยดูดกลิ่นเหม็นอับได้ ยิ่งไปกว่านี้ ยังสามารถเอาไปใส่ไว้ด้านในตู้แช่เย็นเพื่อลดกลิ่นจากอาหารได้ด้วย

5. น้ำมะนาว

โดยให้นำผ้าชุบน้ำอุ่นผสมกับน้ำมะนาวไปขัดถูตามรอบๆต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามตู้ เตียง เครื่องเรือน หรือบางบ้านบางทีอาจจะใช้แนวทางนำสำลีไปชุบแล้วใส่ภาชนะ เพื่อนำไปวางตามตู้ที่มีไว้เก็บเสื้อผ้า ก็เป็นอีกหนึ่งทริคกล้วยๆที่ทำให้บ้านของคุณกลับมาหอมได้เหมือนกัน

น้ำหอมในห้องนอน

4. อีกหนึ่ง กระบวนการทำให้ห้องหอม เพียงแค่ปลูกต้นไม้ในห้อง

สายไม่นิมอลแล้วก็สายธรรมชาติ บางทีอาจจะเลือก วิธีการทำให้ห้องหอม ชื่นบาน ด้วยการเลี้ยงต้นไม้สำหรับปลูกเอาไว้ในที่ร่ม เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมยวนใจจากธรรมชาติรวมทั้งขัดอากาศให้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น พลูด่าง ลิ้นมังกร เดหลี เขียวหมื่นปี มอนสเตร่า ไทรใบสัก ยางประเทศอินเดีย เงินไหลมา เฟิร์นบอสตัน ว่านหางจระเข้ หรือแม้กระทั้ง ตีนตุ๊กแกฝรั่ง

นอกเหนือจากการปลูกต้นไม้ในห้องแล้ว ชี้แนะว่าให้ถ้าระดายต้นไม้งามๆมาตกแต่งเพิ่มอีก ยืนยันว่าห้องของคุณจะชื่นบานขึ้นทันตา ทั้งมองเรียบร้อย เหมาะสมกับการพักผ่อนหย่อนใจสุดๆ

5. เลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม สูตรหอมนาน ไม่เหม็นสาบ

บางทีกลิ่นเหม็นอับข้างในห้องก็มาจากเสื้อผ้าและก็เสื้อผ้า โดยยิ่งไปกว่านั้นในฤดูฝนที่ตากผ้าเท่าใดก็ยังคงกลิ่นเหม็นอับเปียกชื้นเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม พอจะซักใหม่ก็เสียเวล่ำเวลา โดยเหตุนั้น HomeGuru ขอชี้แนะว่า ให้ท่านเปลี่ยนแปลงน้ำยาซักผ้ารวมทั้งน้ำยาปรับผ้านุ่มใหม่ เพื่อช่วยลดเหม็นอับเปียกชื้น บางครั้งก็อาจจะเลือกสูตรสำหรับตากผ้าในที่ร่มก็ได้ การันตีเลยว่า ถึงแม้ว่าจะตากผ้าในที่ที่ไม่โดนแดดหรืออากาศระบายไม่สบาย แม้กระนั้นเสื้อผ้าของคุณก็จะยังหอมไม่ต้องร้องอี๋อีกต่อไป

วิธีการทำให้ห้องหอม

6. เลือกใช้ เครื่องฟอกอากาศ ช่วยทำให้ห้องสะอาดได้จริง

วิธีการทำให้ห้องหอมที่ไม่สมควรละเลยเป็น การใช้งานเครื่องถูอากาศ เพื่อช่วยทำให้อากาศด้านในห้องสะอาดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คลีน และก็แจ่มใสในทุกวัน เพราะว่ามีตัวกรองช่วยกำจัดพวกเชื้อโรค แบคทีเรีย รวมถึงฝุ่นผง PM 2.5 ซึ่งเครื่องฟอกอากาศถึงแม้ว่าจะก่อให้ห้องสะอาดแล้วก็ได้จริง แม้กระนั้นสิ่งที่ตามมาเป็น “อากาศแห้ง”

เพราะฉะนั้น ขั้นตอนการทำให้ห้องของคุณหอมแจ่มใสรวมทั้งอากาศไม่แห้งเป็นการใช้งานเครื่องเพิ่มความชื้นที่อยู่ภายในอากาศ (Humidifier) เป็นตัวช่วย ซึ่งตัวเครื่องนอกเหนือจากการที่จะช่วยทำให้ปรับอากาศไม่แห้งแล้ว ยังสามารถใส่ น้ำหอมในห้องนอน แบบหอมระเหย เพื่อตัวเครื่องพ่นละอองน้ำออกมาได้ด้วย

น้ำหอมในห้องนอน

7. น้ำหอมปรับอากาศ อีกหนึ่ง แนวทางการทำให้ห้องหอมแบบง่ายๆ

สำหรับทริคในที่สุดที่จะทำให้ห้องของคุณหอมน่าอยู่ในวันแล้ววันเล่า ก็คือ การใช้น้ำหอมปรับอากาศในห้อง โดยน้ำหอมปรับอากาศในตลาดก็มีนานัปการแบบอย่างให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น

• สเปรย์ปรับอากาศในห้อง เป็นน้ำหอมที่ใส่ไว้ในกระป๋อง ใช้งานได้โดยการฉีดในรอบๆต่างๆหรือบางทีก็อาจจะเลือกใช้แบบกำหนดเวลาอัตโนมัติก็ได้

• เจลปรับอากาศ หรือเจลกำจัดกลิ่น มีทั้งยังแบบก้อนใหญ่แล้วก็ก้อนกลมๆเล็กๆสามารถเอาไปวางตามจุดต่างๆได้เลย

• น้ำมันหอมระเหย นิยมใช้ในเตาอโรมาหรือเครื่องเพิ่มความชื้นที่อยู่ภายในอากาศ โดยตัวเครื่องจะรอกระจัดกระจายกลิ่นให้ทั่วห้อง นิยมใช้ในห้องนอน เพื่อช่วยบำบัดรักษาความตึงเครียดและก็เพิ่มความบรรเทาในยามพัก

• น้ำหอมแบบก้านไม้ หรือ น้ำหอม Diffuser เป็นน้ำหอมที่มาแรงรวมทั้งนิยมสูงที่สุดปัจจุบันนี้ ด้วยเหตุว่ากลิ่นค่อนข้างจะชัด ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเสมือนอยู่ในสปา เพียงแต่ทิ่มไม้ลงไปในขวดเพียงแค่นั้น

 [ อ้างอิง ]