ในซีซั่นแรกหลังจากสูญเสียพ่อไป พี่น้องตระกูลล็อค โบดี้ คินซีย์ และไทเลอร์ ย้ายตามแม่ นีน่า มาอยู่คฤหาสน์เก่าแก่ของบรรพบุรุษในเมืองแมสซาชูเซตส์ โบดี้เป็นคนแรกที่ค้นพบกุญแจวิเศษในคีย์เฮ้าส์ ซึ่งกุญแจแต่ละตัวมีพลังวิเศษที่แตกต่างกันออกไป ในซีซั่นสองนี้ ทั้งสามคนยังคงพบกุญแจวิเศษใหม่ ๆ อยู่ แต่ไม่มีใครรู้ว่าดอดจ์ ปีศาจร้ายที่อยากได้กุญแจทั้งหมดมาครอบครอง ยังไม่หายไปจากโลกนี้แถมอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด เป้าหมายของดอดจ์คือการสร้างกุญแจวิเศษขึ้นเอง ทั้งสามพี่น้องจะสามารถหยุดภาระกิจของดอดจ์ได้หรือไม่Locke & Key
ความพยายามครั้งนี้มีความเสี่ยง เพราะแรงกดดันจากความคาดหวังจากแฟนกราฟิกโนเวลก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนคือ Locke & Key เคยมีความพยายามดัดแปลงขึ้นจอมาแล้วทั้งจอเงินและจอแก้วแต่ก็ไม่เคยสำเร็จเลย ถ้านับไปอย่างน้อยก็ 3 ครั้งแล้วตั้งแต่ปี 2010 โดยค่ายฟ็อกซ์ และต่อมาก็เป็นโพรเจกต์หนังของยูนิเวอร์แซล ก่อนที่สุดท้ายจะมีการทำตัวไพลอตซีรีส์ไปเสนอที่สตรีมมิงเจ้าดังอย่าง ฮูลู และถูกปฏิเสธมา จนมาเข้ามือคู่แข่งอย่างเน็ตฟลิกซ์ที่อนุมัติให้สร้างนี่เอง เรียกว่าตัวซีรีส์แอบมีความยากในการดัดแปลงจนค่ายใหญ่ถอยมาแล้วหลายครั้ง อย่างน้อยเราก็เห็นว่าตัวเนื้อหาน่าจะมีรายละเอียดมากจนเหมาะกับการเป็นซีรีส์มากกว่าหนัง และนี่น่าจะมาถูกทางอยู่พอประมาณ
ตัวขับเคลื่อนเรื่องสำคัญอย่างพลังของกุญแจวิเศษแต่ละดอกก็ไม่ได้แฟนซีหวานแหววเลย เช่นดอกแรกที่เป็นกุญแจกระจกที่จะหลอกล่อคนเข้าไปติดห้องวงกตในมิติกระจกจนตาย หรือดอกที่เป็นพระเอกอย่างกุญแจหัวที่จะไขเข้าไปสู่โลกในสมองของคนที่มีเงื่อนไขการนำเข้า-การเอาออกสิ่งของในโลกนั้นแล้วกระทบกับสมองของตัวคนได้ อย่างที่พี่สาวคนรองอย่าง คินซี่ (เอมิเลีย โจนส์ จากหนัง High-Rise) เลือกจะเอาความกลัวของตนเองออกมาจากหัวจนทำให้เธอเปลี่ยนจากเด็กที่เจ้าระเบียบและขี้กังวลกลายเป็นคนกล้าและขาดการยั้งคิดไป ก็ดูจะไฮคอนเซ็ปต์พอสมควร มองในแง่นี้ซีรีส์จึงไม่ได้ประนีประนอมกับคนดูและมุ่งไปที่กลุ่มผู้ชมเด็กโตจนถึงวัยหนุ่มสาวขึ้นไปเสียมากกว่า โดยยังไม่ต้องพูดถึงประเด็นการสู้รบกับปีศาจในร่างมนุษย์เช่นเด็กเพี้ยนนาม แซม ที่ปัญหาครอบครัวนำมาสู่การถูกปั่นหัวง่ายและกลายเป็นฆาตกรในที่สุด
|