The World After the End
เวลาผ่านไปแล้วหลายศตวรรษหลังจากที่โลกถูกล้างล้างไปด้วยความทำลาย ประชากรที่รอดชีวิตได้เหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่เคยเป็นเมืองหรือชุมชนที่อุดมสมบูรณ์กลับกลายเป็นที่รกร้างและถูกครอบครองด้วยธรรมชาติที่กว้างขวาง
ความสามารถในการเล่าเรื่องราวผ่านพิมพ์หรือสื่อมวลชนหายไป แต่ความรู้และประสบการณ์จากชาติชาวโลกก่อนหน้านั้นยังเหลือรอดอยู่ในความคิดและพูดถึงระหว่างกันเองของผู้รอดชีวิต แต่วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เคยรู้จักก็ทำให้ความเข้าใจกันยากขึ้น
หลังจากที่ความต้องการพื้นฐานเช่นอาหารและน้ำเป็นสิ่งที่เริ่มรับรู้และจำเป็นต่อการรอดชีวิต ชุมชนที่รอดราวกันเองเริ่มก่อตั้งใหม่โดยใช้ทรัพยากรที่พวกเขาเหลืออยู่ การเกษตรและการเลี้ยงสัตว์กลายเป็นกิจกรรมสำคัญในการอาศัยอยู่ของพวกเขา และพวกเขาก็เริ่มสร้างความสัมพันธ์กันใหม่เพื่อส่งเสริมกันในการเอาชีวิตรอด ความเชื่อมั่นและความสามัคคีกันเป็นรากฐานของชุมชนที่น่าอิจฉาและแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจคือการกลับมาของความรู้และเทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ ส่วนหนึ่งของโลกก่อนหน้านั้นยังเหลือรอดอยู่ในรูปของหนังสือและเอกสารต่าง ๆ ที่ถูกพบเก็บรวบรวม และผู้รอดชีวิตที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรก็สามารถนำความรู้เหล่านี้มาใช้ประโยชน์ให้กับชุมชนของพวกเขาได้ การใช้พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยสร้างระบบอย่างยั่งยืนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินชีวิตของพวกเขา
แม้ว่าโลกหลังจากจุดจบจะเป็นสถานการณ์ที่อันตรายและน่ากลัว แต่ความหวังและความเข้าใจกันของมนุษย์ก็ยังคงอยู่ พวกเขาได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตและพยายามสร้างโลกใหม่ที่ดีกว่า เส้นทางอันยาวนานของความสำเร็จและความเจริญของมนุษย์อาจเป็นทางเลือกที่สำคัญและอันแน่นอนสำหรับคนที่รอดรอดชีวิตในโลกหลังจากจุดจบ
ติดตามต่อได้ที่นี้
|