รีวิว ซีรีส์ไทย ที่มีไอเดียแหวกแนวคล้ายๆ กับเรื่อง Death Note ของมังงะญี่ปุ่นที่นำมาทำเป็นภาพยนตร์และซีรีส์ก่อนหน้านี้ โดยเรื่องนี้เป็นมือถือลึกลับที่มีความสามารถลบคนที่ถูกถ่ายให้หายไปจากโลกได้ ซึ่งก็ยังคล้ายกับไอเดียสมุดยมฑูตของ Death Note และมีกฎของการใช้งานที่ค่อยๆ เผยออกมาแบบเดียวกัน ทำให้ความสามารถของมือถือมีมากกว่าที่เห็นในตอนแรก เรื่องราวจึงแปลกแบบคาดเดาไม่ได้ แต่ต่างกับ Death Note ตรงที่เนื้อเรื่องเป็นสเกลของกลุ่มคนที่เล็กกว่า ซึ่งก็เป็นจุดเริ่มต้นของซีซั่นแรกเพื่อที่จะขยับขยายโลกในเรื่องนี้ให้ไปสู่สเกลที่ใหญ่กว่าในภายหลัง
เรื่องย่อของซีรีส์
เนื้อเรื่องเริ่มต้นด้วยตัวเอกหลัก “ลิลลี่กับเอม” (แสดงโดย ฟ้า ษริกา กับ ณัฏฐ์ กิจจริต) ที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวทั้งๆ ที่ต่างก็มีคนรักอยู่แล้ว ก่อนที่ความสัมพันธ์นี้จะถูกสงสัยโดนคนรักของเขาทั้งคู่ แต่จู่ๆ มือถือลึกลับที่ลบคนได้ก็เข้ามาอยู่ในมือของทั้งคู่ ซึ่งก็เหมือนอาวุธปืนฆ่าคนดีๆ นี่เอง แต่มันลงมือฆ่าได้ง่ายกว่า แถมยังไร้ร่องรอย ไม่มีหลักฐานศพเหลือทิ้งไว้ให้ยุ่งยากใจ นี่จึงเป็นไอเดียจุดเริ่มที่น่าสนใจมากว่าทั้งคู่จะนำมันมาใช้อย่างไร เมื่อมันช่วยแก้ปัญหาความลับชู้สาวของเขาได้ในทันที ติดแค่ต้องลงมือใช้มันเท่านั้น ซึ่งตัวเรื่องก็เล่นกับความลำบากใจในการลงมือทำของทั้งคู่ และก็ติดตามผลลัพธ์ของการกระทำที่ตามมา แม้ว่าการใช้มันเพื่อลบคนเป็นไปได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่เกิดตามมาจากนั้นกลับลบยากยิ่งกว่า หรือลบล้างไม่ได้ด้วยมือถือเครื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งก็กลายเป็นการก่ออาชญากรรมอื่นๆ ตามมาที่ไม่มีที่สิ้นสุด
การดำเนินเรื่องยิ่งซับซ้อนมากขึ้นไปอีก เมื่อมีตัวละครอื่นค่อยๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับมือถือเครื่องนี้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งก็เกิดจากผลของการกระทำของสองคนแรก ต่อเนื่องเชื่อมโยงเปลี่ยนผ่านมาเป็นการเล่าเรื่องของตัวเอกในแต่ละตอน โดยเป็นการเล่าแบบไม่ลำดับตามเวลาจริงในเหตุการณ์ แต่เป็นการเล่าสลับไทม์ไลน์ของตัวละครไปมาอย่างฉลาด ทำให้ผู้ชมเข้าใจเบื้องลึกที่มาของตัวละครแต่ละตัวก่อนจะมาเจอกันในเหตุการณ์หลัก ซึ่งทุกตัวละครในเรื่องนี้ชัดเจนว่าไม่ใช่คนดีมีศีลธรรม ต่างคนต่างมีความเห็นแก่ตัว และมีปมด้อยในตัวเอง เมื่อมีมือถือที่ลบคนได้ มันก็ยิ่งกลายเป็นส่งเสริมให้ใช้มันเพื่อตัวเอง แม้นั่นจะหมายถึงการฆ่าคนทางอ้อมก็ตามที ซึ่งตัวเรื่องสนุกกับการผูกปมของทุกตัวละครในเรื่องเข้ามาเกี่ยวข้องกันในทางใดทางหนึ่ง และส่งต่อความเลวร้ายต่อกันวนเวียนไปมาหาจุดจบไม่ได้ ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้คาดเดาได้ยากมากว่าจะจบลงที่จุดไหนถึงเป็นทางออกของเรื่องได้ในท้ายที่สุด แต่ตัวเรื่องก็หาทางจบลงได้ดีในซีซั่นแรก มีบทสรุปของทุกตัวละครไปตามสิ่งที่ควรจะเป็นไม่ขัดกับความรู้สึกของผู้ชม ตัวละครทุกตัวได้รับผลของการกระทำ และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตต่อไปหลังจากสิ่งเลวร้ายที่ทำลงไปได้รับการแก้ไข ก่อนที่ทุกตัวละครจะมีทิ้งท้ายไปต่อกับแนวทางใหม่ของเรื่องที่สเกลใหญ่โตขึ้นมากกว่าเดิม แต่ก็ยังมีมือถือลบคนได้เป็นแกนหลักสำคัญอยู่เช่นเดิม
รีวิว ซีรีส์ไทย ความรู้สึกหลังรับชม
ตัวเรื่องสนุกน่าติดตามด้วยการเขียนบทที่ดึงดูดให้ผู้ชมดูต่อเนื่องได้อย่างฉลาด แต่ก็ยังมีจุดที่ดูแล้วจงใจให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบแปลกๆ จนไม่สมเหตุผลอยู่บ้าง CG ตอนที่ใช้มือถือลบคนก็ยังพื้นๆ ไม่ได้หวือหวามาก นักแสดงก็อาจจะดูเล่นไม่เป็นธรรมชาติอยู่บ้าง แต่ทั้งหมดก็ไม่ถึงกับทำลายความน่าเชื่อถือของเรื่องที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งตรงนี้ต้องให้เครดิตกับ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ที่เก่งกับการเล่าเรื่องแบบนี้มาตั้งแต่กำกับภาพยนต์ในค่าย GDH ซึ่งนี่เป็นผลงานกำกับซีรีส์เป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งพล็อตเรื่องแบบนี้ปกติจะทำเป็นแค่ภาพยนต์ 2 ชั่วโมงจบ แต่เรื่องนี้ถูกนำมาขยายสร้างเป็นซีรีส์ที่ดูแล้วสนุกลุ้นระทึกต่อเนื่องเหมือนภาพยนต์ในทุกตอน โดยแทบไม่มีฉากที่รู้สึกว่าพยายามฆ่าเวลายืดให้ยาวๆ ตามแบบซีรีส์ทั่วไปเลย
โดยรวมนี่คือซีรีส์ไทยที่ทำลง Netflix ฉายทั่วโลกแล้วออกมาดีที่สุดในตอนนี้ ด้วยการเล่าเรื่องวางบทไว้อย่างฉลาด ชวนให้ระทึกน่าติดตามต่อเนื่องทุกตอน ซึ่งหาไม่ได้ง่ายๆ เลยที่จะมีซีรีส์แบบนี้โดยเฉพาะจากผลงานของไทย
จุดเด่นจุดด้อยของหนังเรื่องนี้
จุดเด่น
-เหมือน Death Note ที่สเกลเล็กกว่า
-เนื้อเรื่องระทึกต่อเนื่องไม่มีอืด
-การเล่าเรื่องสลับซับซ้อน คาดเดาไม่ได้
-จบเรื่องราวได้ลงตัวดี
-ผลงานซีรีส์ครั้งแรกของผู้กำกับ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ (ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ)
จุดด้อย
-บางฉากดูจงใจให้เกิดเรื่องขึ้นแบบไม่สมเหตุผล
-นักแสดงบางคนยังเล่นแบบเข็งๆ อยู่บ้าง
-นักแสดง ออกแบบ ชุติมามีบทน้อยมาก (วางไว้เล่นซีซั่น 2)
ประเด็นที่น่าสนใจในซีรีส์เรื่องนี้
1.เมื่อเทคโนโลยีกลายเป็นดาบสองคม เจ้าตัวมือถือเครื่องนี้ แรกเริ่มเจ้าของคือ แคร์ เธอใช้มันเพื่อลบคนที่สิ้นหวังในชีวิตและการหายไปจากโลกใบนี้น่าจะดีกว่าให้เขาต้องทุกข์ทรมาน ออกแนว การุณยฆาต ก็ว่าได้ทุกรูปที่เธอถ่ายได้รับการยินยอมจากนายแบบและนางแบบทุกคนแล้ว ว่าพวกเขาพร้อมจะหายไป แต่เมื่อมือถือถูกเปลี่ยนมือไปอยู่กับ ลิลลี่ และผองเพื่อน มันกลับกลายเป็นอาวุธในการปิดปาก อุ้มหายคน และเป็นเครื่องฟอกขาวของพวกคนดีย์ไปโดยปริยาย
2.ไม่มีเลือด ไม่มีดิ้นทุรนทุราย แต่ทำไมดูแล้วยังเจ็บปวดกับการหายไป คงเพราะในแต่ละคนที่หายไปเราได้เห็นสีหน้าและแววตาจากทั้งคนที่ล่วงรู้ในชะตากรรมของตนและคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เลยว่าตนจะต้องหายไปตลอดกาล ในส่วนนี้เราถือว่าดาร์กมาก ฟีลลมหายใจเฮือกสุดท้ายเลย
3.อำนาจที่อยู่ในมือนั้นหอมหวานจริงหรือ สื่อสัญญะผ่านทาง มือถือลบคนได้ เมื่อใครครอบครองผู้นั้นจะมีอำนาจสั่งการแค่ชัตเตอร์เดียวก็ได้ดั่งใจตนแล้ว แต่ในซีรีส์สะท้อนให้เห็นแล้วว่าไม่จริง จาก ผู้ล่า คุณอาจกลายมาเป็นผู้ถูกล่าได้เช่นกัน มือถือลบคนได้แต่ไม่สามารถปิดฟ้าได้ เราลบไป 1 คน อาจมีอีกหลาย 10 คนรอไล่ล่าเพื่อให้ได้มาเพื่อประโยชน์ส่วนตนเช่นกัน เรียกว่ายิ่งลบ ยิ่งเกิด ยิ่งมีปัญหาอื่น ๆ ตามมา ให้ว้าวุ่น ถ้าหากจะหนีปัญหาก็คงจะต้องหนีไปตลอด
4.จิตใจของมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง ดังกลอนที่ว่า “แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน” เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนที่เขามาในชีวิตเราเขาหวังดี หรือหวังร้ายกันแน่ บางทีแค่ภายนอกหรือเปลือกที่สร้างกันเอาไว้ว่าสวยหรูจริง ๆ ข้างในจิตใจอาจจะมืดสนิท หรือมีด้านดาร์กที่สุดสะพรึง มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์สูง และมีเหตุผลเข้าข้างตัวเองเสมอเมื่อเป็นสิ่งที่ตนรัก หรือได้ผลประโยชน์ รวมถึงสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดก็สูงเช่นกัน ความรัก/โลภ/โกรธ/หลง เป็นปัจจัยที่ทำให้มนุษย์เห็นแก่ตัวและหลงมัวเมาอยู่กับกิเลสตัณหา
ติดตามข่าวสารหนังน่าดูได้ที่ movies.doodido.com
หรือ ดูหนัง ออนไลน์ได้ฟรีที่ moviesdoofree.com
|