ภาระค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สิน อีกหนึ่งเหตุผลที่เป็นปัจจัยทำให้คนส่วนใหญ่มักจะกู้บ้านไม่ผ่าน ธนาคารส่วนใหญ่มักจะปฏิเสธเพื่อที่จะให้กู้สินเชื่อ ถ้าหากว่าผู้กู้มีหนี้สินที่เกิน 1 ใน 3 หรือประมาณ 40% ของรายได้ที่ได้รับทั้งหมด เพราะการให้กู้สินเชื่อเพื่อที่จะซื้อบ้านเป็นเงินจำนวนมาก ดังนั้นทางธนาคารจึงจะต้องมีเกณฑ์การพิจารณาความเสี่ยงสิ่งที่ธนาคารส่วนใหญ่มักจะพิจารณา จะมีดังนี้
ปัจจัยที่ทำให้ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ
-
ติดผ่อนเยอะ : หากผู้ขอกู้มีค่าใช้จ่ายการผ่อนมากจนเกินไป อาทิ ผ่อนบัตรเครดิต ผ่อนรถ ผ่อนโทรศัพท์มือถือ ทุกค่าผ่อนเหล่านี้ทางธนาคารจะนับเป็นภาระค่าใช้จ่ายของผู้กู้ทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้การกู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่าน ถ้าหากติดผ่อนมากเกิน 40 ของรายได้
-
ติดค้ำคนอื่น : เมื่อผู้กู้ไปค้ำประกันให้กับคนอื่นๆ ทางธนาคารจะยึดมั่นว่าเป็นภาระหนี้สินของผู้กู้เช่นกัน ก็เป็นอีกเกณฑ์ที่ทางธนาคารจะพิจารณา ความสามารถของการชำระหนี้ของผู้กู้ต่ำลง
-
หนี้บัตรเครดิต หรือมีบัตรหลายใบ : สำหรับใครที่มีหนี้บัตรเครดิต มีโอกาสสูงมากๆ ที่จะกู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน ยิ่งมีบัตรเครดิตหลายใบด้วย ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดี เนื่องจากทางธนาคารมองว่าผู้กู้มีหนี้สินจำนวนมาก
-
ประวัติการใช้หนี้ไม่ดี : ประวัติการชำระหนี้ จะเป็นอีกหนึ่งเกณฑ์พิจารณาของทางธนาคาร หากผู้กู้ต้องการยื่นเรื่องซื้อบ้าน แต่มีประวัติการชำระหนี้ล่าช้า ไม่ตรงเวลา หรือค้างชำระจำนวนมาก ก็อาจจะทำให้ยื่นเรื่องกู้ไม่ผ่าน
-
ติดแบล็กลิสต์ : พฤติกรรมการชำระหนี้สินไม่ดี ส่งผลทำให้ผู้กู้ ติดแบล็คลิส ซึ่งก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทางธนาคารจะไม่ให้ผ่านการยื่นกู้ซื้อบ้าน เนื่องจากผู้กู้มีความสามารถการชำระหนี้ที่ต่ำ อาจจะเพิ่มความเสี่ยงให้กับธนาคารได้
สรุปแล้วธนาคารจะพิจารณาความสามารถของการชำระหนี้ผู้กู้อย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งอาจจะทำให้ท่านคู่บ้านไม่ผ่าน ก็เพราะธนาคารมีความเห็นว่าการชำระหนี้เสี่ยงเกินกว่าธนาคารจะยอมรับได้ โดยภาระค่าใช้จ่าย และภาระหนี้สิน ของแต่ละคนจะมีหลายรูปแบบด้วยกัน
|