การวัดอุณหภูมิร่างกายเป็นกระบวนการที่สำคัญในการดูแลสุขภาพของเรา อุณหภูมิร่างกายเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้เรารู้สึกได้ถึงสถานะของร่างกาย เช่น การมีไข้ หรือความเย็นจัด โดยทั่วไปแล้ว เครื่องมือที่ใช้ในการวัดอุณหภูมิร่างกายจะเป็นประเภทแบบไม่สัมผัส โดยจะใช้ตำแหน่งผิวหนังบริเวณต่างๆ เช่น หู จมูก หรือไขกระดูก เพื่อทำการตรวจวัดอุณหภูมิ ที่วัดอุณหภูมิร่างกาย มีหลายวิธี โดยที่วิธีที่ปาก (oral), วิธีที่หู (ear), วิธีที่ผิวหนังหน้า (forehead), และวิธีทางรักแร้ (temporal) เป็นวิธีที่ใช้กันมากที่สุด ดังนี้:
-
วิธีที่ปาก (Oral): นี่เป็นวิธีที่ใช้บ่อยที่สุด โดยการวางปรอทองเหลืองใต้ลิ้นของบุคคล ให้บุคคลนั้นปิดปากให้มิดชิดแล้วรอจนกว่าปรอทองจะสั่งออกสัญญาณบอกว่าการวัดเสร็จสมบูรณ์.
-
วิธีที่หู (Ear): ใช้ปรอทองหูใส่ในหูของบุคคลและวัดอุณหภูมิ วิธีนี้เร็วและสะดวก แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังในกรณีเด็กหรือผู้ป่วยที่อาจมีการตั้งในหูหรือการอักเสบในหู.
-
วิธีที่ผิวหนังหน้า (Forehead): ใช้ปรอทองหน้าวางไปที่ผิวหนังหน้าหรือหน้าผาก วิธีนี้มักใช้ในเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่ต้องการการตั้งในรูปแบบใด ๆ.
-
วิธีทางรักแร้ (Temporal): ใช้ปรอทองทางรักแรงวางลงบนผิวหนังในส่วนบนของหนังผากและลากลงดวงตา วิธีนี้เร็วและสะดวก.
-
วิธีทางรักแรงแปลนขา (Temporal - Tympanic): ใช้ปรอทองทางรักแรงแปลนขาวางลงในท่อหูและวัดอุณหภูมิในหู วิธีนี้มักใช้ในเด็กหรือผู้ใหญ่.
-
วิธีทางรักแรงชนิดอินฟราเรด: ใช้ปรอทองทางรักแรงชนิดอินฟราเรดวางลงบนผิวหนังและวัดอุณหภูมิด้วยการสแกนอินฟราเรดที่อยู่ในผิวหนัง.
การใช้ปรอทองเหลือง (oral) เราจะแจ้งให้คุณทราบถึงวิธีที่พบบ่อยสุด:
-
แตะบริเวณปลายปรอทองในกรอบลิ้นที่อยู่ใต้ลิ้นของคุณ.
-
รอจนกว่าปรอทองจะสั่งออกสัญญาณบอกว่าการวัดเสร็จสมบูรณ์.
-
อ่านค่าอุณหภูมิที่แสดงบนหน้าปรอทอง.
สำหรับปรอทองหลายแบบที่ใช้วัดอุณหภูมิร่างกาย ควรอ่านคู่มือการใช้งานของผลิตภัณฑ์เพื่อให้ความแน่ใจว่าคุณใช้ได้ถูกต้องและปลอดภัย และอย่าลืมล้างหรือทำความสะอาดปรอทองหลังใช้
|